เมื่อซากุระผลิบาน... ญี่ปุ่นจะโรแมนติกที่สุด!

สัมผัสเสน่ห์แห่งฤดูซากุระ ที่จะทำให้คุณหลงรักญี่ปุ่นยิ่งขึ้น

ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่มีมนต์ขลังที่สุด โดยเฉพาะเมื่อดอกซากุระผลิบานเต็มที่ ทั่วทั้งประเทศจะแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อน สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัส ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวกับคนรัก ครอบครัว หรือเดินทางคนเดียว ซากุระก็จะทำให้ทุกโมเมนต์พิเศษและน่าจดจำ

ในบทความนี้ น้อง GTT จะพาคุณไปรู้จักกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมซากุระ และเคล็ดลับการเที่ยวชมซากุระอย่างเต็มอิ่ม!

ซากุระในวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ซากุระมีความสำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามที่ไม่จีรัง ชีวิตที่แสนสั้น และการเริ่มต้นใหม่ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าดอกซากุระเปรียบเสมือนชีวิตมนุษย์ที่งดงามแต่อยู่ได้ไม่นาน จึงต้องใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างเต็มที่ ประเพณีการชมดอกซากุระ หรือ "ฮานามิ" มีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน (794-1185) โดยเริ่มจากชนชั้นสูงก่อนจะแพร่หลายสู่ประชาชนทั่วไป

พยากรณ์ซากุระ 2025: ดอกซากุระบานเมื่อไหร่?

ดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ขึ้นอยู่กับพื้นที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น โดยจุดที่อากาศอบอุ่นอย่าง โตเกียว, เกียวโต และโอซาก้า จะเริ่มบานเร็วกว่าภาคเหนือ เช่น ฮอกไกโด

ปฏิทินซากุระบานโดยประมาณ

• โตเกียว & เกียวโต: ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน
• โอซาก้า: ต้น – กลางเมษายน
• ฮอกไกโด: ปลายเมษายน – ต้นพฤษภาคม

หากอยากชมซากุระในช่วงที่บานเต็มที่ ควรเช็ก "พยากรณ์ซากุระ" (Sakura Forecast) จากเว็บไซต์ทางการของญี่ปุ่น:

• Japan Meteorological Corporation
  
• Japan-Guide Sakura Updates
  
• WeatherNews
  

5 สถานที่สุดโรแมนติกในการชมซากุระ

1. แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River), โตเกียว

ไฮไลต์: ซากุระริมแม่น้ำ & ไฟประดับยามค่ำคืน

ถนนเลียบแม่น้ำเมกุโระถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่โรแมนติกที่สุดในโตเกียว ต้นซากุระที่เรียงรายตลอดแนวแม่น้ำกว่า 800 ต้น จะผลิบานพร้อมกันในช่วงต้นเดือนเมษายน ตอนกลางคืนยังมีไฟประดับเพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศอีกด้วย

การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Yamanote มาลงที่สถานี Meguro หรือ Gotanda แล้วเดินประมาณ 10 นาที

เวลาเปิด-ปิด: สามารถเข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง (แสงไฟประดับเปิด 18:00-21:00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/hqHiHZEd39ht9fzY7

ที่พักใกล้เคียง: โรงแรม Mitsui Garden Hotel Gotanda (ราคาเริ่มต้น 8,000 เยนต่อคืน)

2. สวนมารุยามะ (Maruyama Park), เกียวโต

ไฮไลต์: ซากุระต้นยักษ์กลางสวน & บรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม

สวนมารุยามะเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชมซากุระในเกียวโต มีต้นซากุระขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปีที่สวยงามมากในยามค่ำคืน

การเดินทาง: นั่งรถบัสเมืองเกียวโตสาย 100, 206 หรือ 207 มาลงที่ป้าย Gion

เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง (แสงไฟประดับเปิด 18:00-22:00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/fLyHP1UEZUYymPDT9

ที่พักใกล้เคียง: เรียวกัง Gion Hatanaka (ราคาเริ่มต้น 20,000 เยนต่อคืน) หรือโรงแรม Kyoto Traveler's Inn (ราคาเริ่มต้น 10,000 เยนต่อคืน)

3. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle), อาโอโมริ

ไฮไลต์: ซากุระสะท้อนเงาในคูน้ำรอบปราสาท

จุดนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยจำนวนต้นซากุระมากกว่า 2,500 ต้น บรรยากาศรอบปราสาทฮิโรซากิชวนให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพวาด

การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Ou Main Line มาลงที่สถานี Hirosaki แล้วต่อรถบัสประมาณ 15 นาที

เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น.)

ค่าเข้าชม: สวน 310 เยน, ปราสาท 310 เยน, ซื้อรวม 510 เยน

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/MhfTfy2k9j7kEnfo6

ที่พักใกล้เคียง: Hotel Naturia หรือ Hotel Route Inn Hirosaki Ekimae (ราคาเริ่มต้น 7,000 เยนต่อคืน)

4. สวนอุเอโนะ (Ueno Park), โตเกียว

ไฮไลต์: ฮานามิ (ปิกนิกชมซากุระ) ท่ามกลางต้นซากุระนับพัน

สวนอุเอโนะเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว โดยเฉพาะการจัดปิกนิกใต้ต้นซากุระที่เรียกว่า "ฮานามิ" (Hanami)

การเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Ueno (JR Line, Tokyo Metro Ginza Line, Hibiya Line)

เวลาเปิด-ปิด: 5:00-23:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี (พิพิธภัณฑ์ในสวนมีค่าเข้าแยกต่างหาก)

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/LXbTrop2L9nhBGth9

ที่พักใกล้เคียง: Ueno Hotel (ราคาเริ่มต้น 9,000 เยนต่อคืน) หรือ Hotel Mystays Ueno East (ราคาเริ่มต้น 8,000 เยนต่อคืน)

5. ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino), นารา

ไฮไลต์: ซากุระบานทั่วทั้งภูเขา

ภูเขาโยชิโนะเป็นสถานที่ชมซากุระที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมีต้นซากุระปลูกกระจายอยู่ตามแนวเขามากกว่า 30,000 ต้น

การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Kintetsu Railway จาก Osaka หรือ Kyoto มาลงที่สถานี Yoshino

เวลาเปิด-ปิด: สามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา

ค่าเข้าชม: ฟรี (มีค่าใช้จ่ายสำหรับจุดชมวิวและวัดบางแห่ง ประมาณ 500-1,000 เยน)

แผนที่: https://maps.app.goo.gl/BDoeZmauFmVKRzG37

ที่พักใกล้เคียง: Ryokan Kato (ราคาเริ่มต้น 15,000 เยนต่อคืน) หรือ Yoshino Pension (ราคาเริ่มต้น 7,000 เยนต่อคืน)

ฮานามิ – วัฒนธรรมปิกนิกชมซากุระของคนญี่ปุ่น

"ฮานามิ" เป็นธรรมเนียมที่คนญี่ปุ่นนิยมทำกันในช่วงฤดูซากุระ โดยจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระ มีทั้งอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ขนมโมจิหลากสี และเครื่องดื่มสุดพิเศษ เช่น สาเกซากุระ (สาเกที่หมักพร้อมกับดอกซากุระ)

อาหารยอดนิยมในงานฮานามิ

• เบนโตะซากุระ – ข้าวกล่องญี่ปุ่นที่ตกแต่งอย่างสวยงาม (ราคาประมาณ 800-1,500 เยน)
• ดังโงะซากุระ – ขนมดังโงะหลากสีที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ (ราคาประมาณ 400-600 เยน)
• ไดฟุกุโมจิ – โมจิสอดไส้ถั่วแดงที่เข้ากันได้ดีกับชาเขียว (ราคาประมาณ 300-500 เยน)
• ซากุระโมจิ – ขนมโมจิกลิ่นซากุระหรือสอดไส้ดอกซากุระดอง (ราคาประมาณ 500-800 เยน)

สถานที่ยอดนิยมสำหรับฮานามิ

• สวนอุเอโนะ (โตเกียว) - มีพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับปิกนิก แต่ควรไปแต่เช้าเพื่อจองพื้นที่
• สวนโยโยกิ (โตเกียว) - สวนขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบกว่าสวนอุเอโนะ
• สวนมารุยามะ (เกียวโต) - สามารถจองพื้นที่ปิกนิกล่วงหน้าได้ในบางโซน (ค่าจอง 3,000-5,000 เยน)

เคล็ดลับการถ่ายภาพซากุระให้สวยเหมือนมือโปร

ถ้าคุณอยากเก็บภาพบรรยากาศโรแมนติกของซากุระไว้เป็นความทรงจำ ลองทำตามเคล็ดลับนี้!

เทคนิคการถ่ายภาพซากุระ

• ใช้แสงธรรมชาติ – ถ่ายช่วงเช้าตรู่หรือช่วงพระอาทิตย์ตกดินเพื่อให้ได้แสงนุ่ม ๆ ที่สวยงามที่สุด
• ลองมุมมองแปลกใหม่ – เช่น ถ่ายจากมุมต่ำขึ้นไป หรือหาจุดที่มีซากุระสะท้อนเงาบนผิวน้ำ
• ใช้โหมด Portrait – ทำให้ดอกซากุระโดดเด่นด้วยการเบลอฉากหลัง
• ถ่ายภาพกลีบดอกร่วง – ภาพกลีบซากุระปลิวว่อนในสายลมเป็นภาพที่งดงามและสื่อถึงความงามที่ไม่จีรัง

เที่ยวชมซากุระยังไงให้ฟินที่สุด?

สิ่งที่ควรเตรียม

• เสื้อผ้า: เสื้อกันหนาวบาง ๆ (อุณหภูมิช่วงซากุระบาน 10-18°C)
• ร่ม/เสื้อกันฝน: เนื่องจากฤดูใบไม้ผลิอาจมีฝนปรอย ๆ
• เสื่อปิกนิก: หากต้องการทำฮานามิ
• ยาแก้แพ้: สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ละอองเกสรดอกไม้
• Power Bank: สำหรับชาร์จมือถือในระหว่างวัน
• บัตร IC Card: เช่น Suica, PASMO สำหรับการเดินทางสาธารณะ

เคล็ดลับการท่องเที่ยว

• เช็กพยากรณ์ซากุระก่อนเดินทาง เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ดีที่สุด
• จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น
• หลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว เช่น Golden Week (ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม) เพราะสถานที่ดัง ๆ จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
• เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวช่วงเช้าตรู่หรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน
• ใช้บริการ Luggage Forward ส่งกระเป๋าเดินทางไปยังโรงแรมล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
• ดาวน์โหลดแอป Japan Travel มีข้อมูลการเดินทางและแผนที่ออฟไลน์

คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเดินทาง

• ผู้สูงอายุ: เลือกสถานที่ชมซากุระที่เข้าถึงง่าย เช่น สวนสาธารณะในเมือง หรือริมแม่น้ำที่มีทางเดินราบเรียบ
• ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก: เลือกสวนที่มีสนามเด็กเล่น เช่น สวน Shinjuku Gyoen ในโตเกียว
• ผู้ใช้รถเข็น: ตรวจสอบข้อมูลการเข้าถึงสำหรับผู้พิการก่อนเดินทาง เช่น สวน Ueno Park และ Shinjuku Gyoen มีทางลาดและห้องน้ำสำหรับผู้พิการ

แอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยว

• Japan Travel by NAVITIME - แผนที่ออฟไลน์และตารางรถไฟ ค้นหาเส้นทางได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
• Japan Official Travel App - แอปทางการจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่น มีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและอัพเดทข่าวสาร
• Sakura Navi - แอปติดตามการบานของซากุระทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ พร้อมพยากรณ์ล่วงหน้า
• Google Translate - ดาวน์โหลดภาษาญี่ปุ่นไว้ใช้แปลออฟไลน์ และสแกนป้ายภาษาญี่ปุ่น
• Google Maps - บันทึกสถานที่สำคัญล่วงหน้า และดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์
• WeatherNews - พยากรณ์อากาศแม่นยำ เช็คสภาพอากาศก่อนออกไปชมซากุระ

ซากุระทำให้ญี่ปุ่นโรแมนติกที่สุด!

ฤดูซากุระเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวญี่ปุ่น เพราะไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังได้เข้าถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นใต้ต้นซากุระริมแม่น้ำ หรือร่วมปิกนิกกับคนรู้ใจ บรรยากาศในช่วงนี้จะทำให้คุณตกหลุมรักญี่ปุ่นแบบถอนตัวไม่ขึ้น!

คุณเคยไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นหรือยัง? ถ้ายัง... ปีนี้อาจถึงเวลาที่คุณต้องไปสัมผัสเสน่ห์ของฤดูซากุระด้วยตัวเองแล้ว!

-------

GTT Inter Travel เรามีแพ็กเกจทัวร์สุดพิเศษ หรือจะจัดกรุ๊ปทัวร์แบบส่วนตัว
โทร 098-483-0111
Facebook page : https://www.facebook.com/gttintertravel
Line ID: @gttintertravel (มี @ ด้วยนะจ๊ะ)